Thursday, June 23, 2011

Nook Color Review


NOOK Color Review

หลังจากที่ได้รับเครื่องมาเกือบ3สัปดาห์และได้ทำการถ่ายภาพ unbox แล้วก็แทบไม่ได้แตะเจ้า NOOK Color อีกเลย เนื่องจากภารกิจการงานที่รัดตัวสุดๆ ตอนนี้พอมีเวลาบ้างแล้วจึงขอเริ่มทำการรีวิวเจ้า NOOK Color เลยก็แล้วกัน



1. แพ็คเกจ
อย่างที่ได้เห็นกันไปแล้วในภาพชุด unbox เจ้า NOOK Color (ต่อไปขอเรียกย่อๆว่า NC) มาในกล่องกระดาษแข็งดีไซน์อย่างสวยงาม ทรงกล่องบรรจุเจ้า NC จะออกในแนวสูงและแคบ เมื่อเทียบกับ Kindle และ iPad เมื่อแกะฟิล์มพลาสติกที่ห่อแล้ว ตัวกล่องสามารถเปิดออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนบนซึ่งเป็นที่บรรจุตัวเครื่อง NC และ ด้านล่างจะเป็นกล่องบรรจุชุด Accessories ซึ่งประกอบด้วยสายเคเบิลและอะแดปเตอร์



2. ตัวเครื่อง
สัมผัสแรกเมื่อได้จับเจ้า NC คือ 'หนัก' และ 'แน่น' คุณภาพการประกอบชิ้นงานทำได้ดีมากๆ ให้ความรู้สึกหนักแน่นมีคุณภาพจริงๆ ส่วนหนึ่งมาจากวัสดุที่ใช้เลือกมาอย่างดีตั้งแต่ตัวเฟรมข้างๆจอภาพที่ทำจากพลาสติกสังเคราะห์สีเทา gun metal ดูบึกบึน เฟรมรอบตัวเครื่องดูเหมือนจะทำจากอลูมิเนียมอะโนไดซ์ ให้ความแข็งแรงทนทาน แผงหลังตัวเครื่องโค้ตด้วยยางกันลื่นสีดำ ช่วยให้จับถือกระชับมือ ไม่ลื่น



3. จอภาพ
มาดูที่จอภาพกันบ้าง จอภาพของเจ้า NC เป็นจอ IPS (In-Plane Switching) ซึ่งเป็นจอ LCD รุ่นใหม่ที่ให้มุมมองกว้างกว่าจอ LCD ทั่วๆไป โดยยังคงคุณภาพของความสว่างและสีได้ดี โดยมีขนาดหน้าจอวัดตามเส้นทะแยงมุมอยู่ที่ 7นิ้ว ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 1024 x 600 pixel และแน่นอนบนหน้าจอมีเลเยอร์ multi-touch สำหรับรับคำสั่งการควบคุมแบบสัมผัสซึ่งกลายเป็นมาตรฐานของคอมพิวเตอร์ประเภทแท็บเล็ตสมัยใหม่ไปแล้ว



คุณภาพของจออยู่ในขั้นดีมาก ทั้งในแง่สีสัน ความสว่าง คอนทราสต์ และความคมชัด สัดส่วนของหน้าจอเจ้า NC ดูจะออกในแนวแคบและยาว ซึ่งพื้นที่ความสูงที่เพิ่มขึ้นตรงส่วนล่างของหน้าจอนั้นจะถูกใช้แสดงปุ่มควบคุมแบบสัมผัส และแป้นคีย์บอร์ด แล้วแต่กรณี ด้านล่างของหน้าจอจะมีโลโก้ "n" อยู่ซึ่งโลโก้ตัว "n" นี้ที่จริงคือปุ่ม Home นั่นเอง ข้างๆกันทางด้านซ้ายนั้นมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดความสว่างติดตั้งอยู่เพื่อให้จอภาพสามารถปรับความสว่างให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ

4. พอร์ต และปุ่มควบคุม
ขอบด้านบนขวาของตัวเครื่องมีรูเสียบหูฟัง ซึ่งสามารถใช้กับหูฟังแบบ mini-jack ทั่วๆไป ด้านซ้ายบนเป็นปุ่ม power on/off สำหรับปิดเปิดเครื่อง ส่วนขอบด้านขวาบน เป็นที่อยู่ของปุ่ม volume control และด้านล่างจะเป็นพอร์ต Micro USB ซึ่งใช้สำหรับการชาร์จไฟ และถ่ายโอนข้อมูลไป-มา กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนแผงหลังทางด้านล่างจะมีช่องลำโพงซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีพอใช้



จุดเด่นอีกจุดในดีไซน์ของเจ้า NC ก็คือ "หูหิ้ว" ซึ่งติดอยู่กับตัวเครื่องทางด้านซ้ายล่าง ซึ่งหูหิ้วนี้สามารถใช้คล้องสายสะพายหรือสายคล้องข้อมือกันเครื่องตกหล่นขณะอ่านได้ ด้านหลังของหูหิ้วนี้จะมีฝาเล็กๆ ซึ่งเมื่อเปิดออกมาจะเห็นช่องเสียบ Micro SD Card ตัวฝาเปิดเล็กอันนี้ยึดติดกับโครงหลักของเครื่องด้วยหมุดแม่เหล็ก เป็นดีเทลที่ใช้งานได้สะดวกและเท่ทีเดียว




5. การใช้งาน
เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก NC จะแสดงวิดีโอวิธีการใช้งานแบบสังเขป หลังจากนั้นระบบจะแสดงหน้า Home ซึ่งจะประกอบไปด้วยภาพ icon ของปกหนังสือที่เราเลือกมาใส่ในหน้านี้ ซึ่งเมื่อใช้นิ้วแตะที่หน้าปกหนังสือ เครื่องจะเปิดหนังสือเล่มนั้นๆ โดยจะเริ่มที่หน้าสารบัญในกรณีหนังสือใหม่ และหน้าล่าสุดในกรณีที่เป็นหนังสือที่เราอ่านค้างไว้



เมื่อแตะที่ปุ่ม main menu (ปุ่ม multitouch รูปครึ่งวงกลมพร้อมหัวลูกศรชี้ขึ้น) จอภาพจะแสดงเมนูหลัก 6 เมนูคือ Library Shop Search Extras Web และ Settings

  • Library คือที่เก็บคอนเทนต์สำหรับอ่านทั้งหมดที่มีในเครื่อง แบ่งเป็นหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และเอกสารต่างๆเช่น ไฟล์เอกสารเวิร์ด พาวเวอร์พอยทน์ ฯลฯ
  • Shop คือหน้าร้านออนไลน์ของ Barnes &Noble ซึ่งถ้าอยู่ในสหรัฐ เราจะสามารถซื้อหนังสือที่ต้องการโดยตรงจากเครื่องได้เลย สำหรับในเมืองไทยยังซื้อตรงจากเครื่องไม่ได้ครับเพราะติดข้อจำกัดทางด้านภูมิภาคตามสัญญาการขายหนังสือดิจิตอล
  • Search เป็นฟังก์ชั่นการค้นหา ซึ่งระบบจะค้นหาคอนเทนต์เช่นหนังสือ เพลง หรือรูปภาพในเครื่อง ที่มีชื่อหรือเนื้อหาตรงกับ keyword ที่เราพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้ขยายขอบเขตการสืบค้นไปยังอินเตอร์เน็ต ร้านออนไลน์ของ B&N และ เว็บไซต์ Wikipedia อีกด้วย
  • Extras เป็นหน้ารวมไอคอนของ Apps ต่างๆที่มีในเครื่อง ซึ่งในเบื้องต้นเจ้า NC ให้ Apps มา 8 ตัว ได้แก้ Chess Contacts Crossword Gallery LendMe Music Pandora และ Sudoku
  • Web Browser
  • Settings เป็นหน้ารวมตัวเลือกการตั้งค่าของเครื่อง เช่น wirelessความสว่างของหน้าจอ ระดับเสียง พาสเวิร์ด ไทม์โซน ฯลฯ



6. ฟังก์ชั่น e-reader
แม้ว่าเจ้า NC จะมี apps และบราวเซอร์ติดมาด้วย ซึ่งทำให้ตัวมันเองสามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย เท่าๆกับแท็บเบล็ตคอมพิวเตอร์อื่นๆ แต่ฟังก์ชั่นหลักที่ NC ถูกออกแบบมาให้ใช้งานก็ยังคงเป็น e-reader อยู่นั่นเอง ซึ่งใน NC นี้ ทางผู้ผลิตได้เปลี่ยนมาใช้จอภาพ LCD สี แทนที่จะเป็น e-ink เหมือนกับเครื่องอ่าน e-reader ทั่วๆไป ส่วนสาเหตุนั้นก็เดาว่าเจ้า NC นั้นออกมาสำหรับผู้ใช้กลุ่มที่อ่านนิตยสาร PDF และหนังสือเด็ก นั่นเอง

Nook Color สนับสนุนอีบุ๊คฟอร์แมต ePub เช่นเดียวกันกับ Nook รุ่นจอขาวดำ เนื่องจากเป็นฟอร์แมตหนังสืออีบุ๊คของค่าย B&N โดยฟอร์แมต ePub นี้ ยังเป็นฟอร์แมตที่ใช้ในค่ายใหญ่อย่าง Apple และ Sony เช่นกัน

ฟีเจอร์ในการอ่านก็มีมาให้อย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่การย่อ-ขยายตัวอักษร ที่ทำได้ถึง 6 ขนาด การเลือกแบบตัวอักษรได้จาก 6 รูปแบบ ปรับความห่างระหว่างบรรทัดได้ 3 ระดับ แล้วยังสามารถปรับความกว้างของบรรทัดได้อีก 3 ระดับ ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็น display mode ของหน้าหนังสือ โดยสามารถเลือกสีพื้นและสีตัวอักษรให้เหมาะกับสภาพแสงในขณะนั้นได้อีก 6 รูปแบบ เช่น ตัวอักษรขาวบนพื้นดำ ตัวอักษรดำบนพื้นขาว และตัวอักษรขาวบนพื้นเทา ฯลฯ และยังสามารถปรับเพิ่ม-ลดความสว่างของหน้าจอ ด้วยสไลด์เดอร์ระบบสัมผัสอีกด้วย





ในขณะที่อ่านหนังสือ ผู้อ่านสามารถทำ highlight เปิดหาคำในดิกชันนารี หรือ เขียนโน้ตย่อในหนังสือได้ง่ายและสะดวก ด้วยระบบ multi-touch เพียงแค่ใช้นิ้วแตะบนคำที่ต้องการสักครู่ ระบบจะขึ้นเมนูมาให้เลือกโดยอัตโนมัติ



นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นที่ผนวกเข้ากับเครือข่าย Social Network เช่น การแนะนำหนังสือ หรือแบ่งปันประโยคเด็ด ผ่านทาง Twitter และ Facebook เป็นต้น



ใน NC ใหม่นี้มีฟังก์ชั่นอ่านให้ฟัง (Read to Me) เหมือนกัน แต่ระบบการอ่านให้ฟังของ NC เท่าที่เห็นจากหนังสือเด็กที่แจกฟรีมากับเครื่อง เสียงที่อ่านจะถูกบันทึกเอาไว้ล่วงหน้าคล้ายๆ Audio Book ไม่ใช่การอ่านแบบประมวลผลเรียลไทม์จากตัวหนังสือเหมือนใน Kindle

7. การอ่านเอกสาร PDF
หนึ่งในความสามารถที่ B&N โฆษณาไว้มากสำหรับเจ้า NC ก็คือความสามารถในการอ่านเอกสาร PDF ซึ่งเมื่อทดลองใช้จริงๆก็พบว่า NC สามารถใช้งานกับเอกสาร PDF ได้ดีพอควร การพลิกหน้าทำได้โดยการใช้นิ้ว swipe (ถู ?) ขึ้น-ลง การโหลดหน้าเอกสารแต่ละหน้าทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว ไม่มีจังหวะค้างหรือติดขัดมากนัก การแสดงผลตัวอักษร และรูปภาพคมชัด สีสันสดใส จัดอยู่ในขั้นดีมาก ผู้อ่านสามารถใช้การ Pinch (หยิก?) ในการการซูมเข้า-ออกบนหน้าเอกสาร PDF แบบเดียวกับที่เราทำบนเครื่อง iPhone หรือ iPad ได้ การซูมเข้า-ออก มีอาการกระตุก ไม่นุ่มนวลเหมือนอุปกรณ์จอสัมผัสจากค่าย Apple



การอ่านเอกสารPDF สามารถทำได้ทั้งแนวตั้ง (Portrait) และแนวนอน (Landscape) โดยตัวเครื่องสามารถจับองศาของหน้าจอได้โดยอัตโนมัติ ผู้อ่านยังสามารถเลือกให้เอกสารฟิตพอดีกับความกว้าง หรือความสูงของหน้าได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากเอกสาร PDF หลายๆเล่มที่นำมาทดสอบ พบว่า NC ยังไม่สนับสนุน Table of Content นะครับ (จุดนี้ยังยืนยันไม่ได้ 100% หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยบอกกันมาด้วย) ดังนั้นการอ่านแบบข้ามหน้าไป-มาทีละหลายๆหน้า จะทำได้วิธีเดียวคือใช้คำสั่ง Go to Page…เท่านั้น

ความเห็นส่วนตัวของผู้ทดสอบคือ แม้ว่าเจ้า NC จะมีความสามารถในการใช้งานเอกสาร PDF ได้ในระดับที่ดีมาก แต่ข้อจำกัดเรื่องขนาดของหน้าจอยังคงเป็นอีก เหตุผลหลักที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องคำนึงถึงหากต้องการหาเครื่องสำหรับอ่าน PDF ที่ถูกใจ เพราะหน้าเอกสาร PDF โดยส่วนใหญ่เท่าที่พบจะมาในขนาด A4 หรือใหญ่-เล็กกว่าเล็กน้อย ทำให้การแสดงผลบนจอขนาด 6-7” ดูเล็กเกินไป อ่านลำบาก โดยส่วนตัวยังเห็นว่า iPad กับ Kindle DX คือเครื่องมืออ่านเอกสาร PDF ที่ดีที่สุดอยู่นั่นเอง

8. Web Browser
บราวเซอร์ของ NC แสดงผลถูกต้องครบถ้วนตามรูปแบบของ desktop browser ทั่วๆไป ทำให้หน้าเว็บใหญ่ๆบางครั้งอาจดูเล็กไปบ้างเมื่อแสดงผลบนหน้าจอ 7" ของเจ้า NC อย่างไรก็ตาม เว็บบราวเซอร์ของ NC ยังไม่ซัพพอร์ทคอนเทนต์ที่เป็น FLASH

สิ่งที่น่าผิดหวังอีกอย่างของตัวบราวเซอร์คือการแสดงผลวิดีโอ ซึ่งมีความละเอียดและframe rate ค่อนข้างต่ำ เรียกว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวในวิดีโอมากๆก็ถึงกับดูไม่รู้เรื่องกันเลยทีเดียว



9. Music Player
NC ติดตั้ง Music Player App มากับตัวเครื่องด้วย โดยสามารถเรียกใช้งานได้จากเมนู Extra >>Music ตัวโปรแกรมใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน มีฟีเจอร์ตามมาตรฐาน Music Player ทั่วไปคือ Play/Pause Previous/Next การ add เพลงเข้าไปใน playlist และการ browseซึ่งมีให้เลือก by song by artist by album และ by playlists

ภาพปกอัลบั้มดูหยาบๆไม่ละเอียดสวยงามเหมือนพวก ipod touch หรือ ipad และเสียงที่ออกมาจากลำโพงในตัวเครื่องค่อนข้างเบา อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่าเสียงค่อยเกินไป ผู้ใช้สามารถเลือกเสียบหูฟังหรือต่อเข้ากับลำโพงภายนอกได้



10. Apps อื่นๆ
Apps ที่มากับเครื่อง (อยู่ใน Extra) มีเกมส์ Sudoku Chess Crossword Pandora Radio (สถานีวิทยุออนไลน์ ใช้งานที่เมืองไทยไม่ได้) Contacts Picture Gallery และ LendMe ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับยืมหนังสือระหว่างเจ้าของ NOOK ด้วยกัน (ใช้ได้เฉพาะคอนเทนต์ที่ซื้อจาก B&N Store เท่านั้น)

11. ภาษาไทย
Nook Color ยังไม่ซัพพอร์ตภาษาไทยทั้งในส่วนของ ebook reader และ บราวเซอร์ แต่สามารถอ่านเอกสาร PDF ภาษาไทยที่มีการฝัง (embed) ฟอนต์ได้



12. ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี:
  • จอภาพสีสันสดใส คมชัด และเป็นจอสัมผัส Multitouch
  • คุณภาพของฮาร์ดแวร์
  • ฮาร์ดดิสก์ความจุ 8 GB
  • มี wifi ในตัว
  • มีฟังก์ชั่นเสริมหลากหลาย เช่น music player เว็บบราวเซอร์ เกมส์ ดิกชันนารี ฯลฯ
  • ใช้งานค่อนข้างง่าย
  • อ่านเอกสาร ebook PDF และเอกสารออฟฟิศเช่น MS Word และ Powerpoint

ข้อเสีย
  • จอภาพเป็น LCD จึงอาจทำให้ปวดตาหากอ่านเป็นเวลานานๆ
  • แบตเตอรี่อายุค่อนข้างสั้น (ประมาณ​8 ชม.) เมื่อเทียบกับ ereader ที่เป็นจอ e-ink (7 วันขึ้นไป)
  • หนัก
  • ระบบจอสัมผัสยังมีการกระตุกอยู่บ้าง
  • หนังสือ B&N ยังไม่สามารถซื้อจากเมืองไทยโดยตรงได้
พอสังเขปประมาณเท่านี้ ก็คงพอเป็นข้อมูลสำหรับผู้สนใจนะครับ

(update 24/12/10) จบภาคปรกติแค่นี้ เชิญศึกษาภาคพิสดาร "Root The Nook" ต่อที่โพสต์นี้เลยครับ
http://www.read.in.th/node/718


รายละเอียดและสเป็คของ Nook Color โดยละเอียด สามารถดูได้จากเว็บของ Barnes & Noble:
http://www.barnesandnoble.com/nookcolor/features/techspecs/index.asp

สั่งซื้อปกหนังแท้ Martlet สำหรับ Nook Color

Martlet Leather Cover for Nook Color

No comments:

Post a Comment